จัดการขนส่งสินค้าด้วยตนเองหรือจัดจ้างบริษัทขนส่งภายนอกดี?

การขนส่งสินค้าโดยการว่าจ้างบริษัทขนส่งสินค้าภายนอกของผู้ประกอบการธุรกิจที่ให้บริการโลจิสติกส์หรือที่เรียกว่า ผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่สาม (Third-Party  Logistics  Provider, 3PL) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าต่างๆ เป็นทางเลือกที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการตัดสินใจว่าจะจัดจ้าง(Outsource) ผู้ให้บริการเข้ามาปฏิบัติการให้ แทนที่ผู้ประกอบธุรกิจจะดำเนินการด้วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เจ้าของสินค้าไม่ต้องจัดการขนส่งสินค้าด้วยตนเอง โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ปัจจัยด้านต้นทุนของการขนส่งสินค้า

ราคาค่าขนส่ง
ราคาค่าขนส่ง

มีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนอยู่สองสามข้อในการที่เราไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ นั่นก็คือ ต้นทุนในด้านเงินทุนผ่านทางการใช้บริการโลจิสติกส์ เพราะบริษัทที่เป็นลูกค้าไม่จำเป็นต้องลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพยากรต่างๆ เช่น พาหนะและอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับที่จะต้องลงทุนถ้าทำการขนส่งสินค้าด้วยตนเอง ดังนั้น เงินทุนส่วนนี้สามารถนำมาลงทุนในด้านอื่นๆ ของธุรกิจที่สร้างผลกำไรได้มากกว่า เช่น เครื่องจักรใหม่ๆ สำหรับการผลิต ร้านค้าปลีก ฯลฯ นอกจากต้นทุนในด้านเงินทุนซึ่งเป็นต้นทุนที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว ผู้ให้บริการโลจิสติกส์อาจจะสามารถเฉลี่ยต้นทุนการบริหารจัดการ และทรัพยากรในองค์กรไปยังลูกค้าหลายๆ ราย ทำให้ต้นทุนของลูกค้าแต่ละรายต่ำลงนอกจากนี้ เราจะสามารถลดต้นทุนด้านการบริหารควบคุมซึ่งเป็นต้นทุนแฝงและคำนวณเป็นตัวเงินได้ยาก รวมไปถึงต้นทุนด้านการปฏิบัติการ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง หรือค่าแรงพนักงาน ในกรณีที่เราดำเนินการเอง อาจจะสูงกว่าผู้ให้บริการโลจิสติกส์ดำเนินการก็ได้ เนื่องจากความชำนาญที่แตกต่างกันแต่ก็ใช่ว่าการจัดจ้างบริษัทรับจ้างขนส่งสินค้าจะลดต้นทุนเสมอไป ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการ เปลี่ยนแปลงจากการปฏิบัติการขนส่งด้วยตนเองไปสู่การใช้บริการของผู้ให้บริการโลจิสติกส์อาจจะสูงกว่าได้ เพราะผู้ให้บริการโลจิสติกส์เองก็ต้องมีค่าปฏิบัติการเช่นเดียวกัน และยังต้องบวกผลกำไรของบริษัทของเขาไว้ด้วยดังนั้นการสรรหาและคัดเลือกผู้ให้บริการขนส่งสินค้าก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญอันดับแรก

ปัจจัยด้านการบริการของการขนส่งสินค้า

คุณภาพการให้บริการขนส่งสินค้า
คุณภาพการให้บริการขนส่งสินค้า
การบริการขนส่งด้วยหัวใจ
การบริการขนส่งด้วยหัวใจ

ปัญหาหนึ่งที่มักจะมีการพูดถึงกันบ่อยคือ ระดับของการบริการระหว่างการปฏิบัติการการขนส่งสินค้าด้วยตนเองและการปฏิบัติการการขนส่งผ่านบริษัทรถขนส่งสินค้า แบบใดจะมีระดับของการบริการสูงกว่ากัน การใช้บริการโลจิสติกส์ผ่านผู้ให้บริการโลจิสติกส์ควรจะให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นแก่บริษัทลูกค้า อย่างไรก็ตาม เราต้องคำนึงอยู่เสมอว่า เมื่อเราจัดจ้างกิจกรรมใดออกไปแล้ว ความสามารถในการควบคุมกิจกรรมนั้นๆ ก็จะเปลี่ยนไป ดังนั้น เราจะต้องมีการวัดผลการดำเนินงานของผู้ให้บริการอย่างถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการนั้นมีการให้บริการที่เป็นไปตามที่เราต้องการปัจจัยด้านองค์กร สาเหตุหลักสาเหตุหนึ่งที่ถูกยกขึ้นมาเป็นฐานของการเปลี่ยนแปลงมาสู่การใช้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์คือโอกาสที่บริษัทสามารถมุ่งเน้นที่ธุรกิจหลักของตนเองได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผลิต หรือการตลาดและการขาย การทำเช่นนี้มีประโยชน์ทั้งในแง่ขององค์กรและ
ในด้านต้นทุน ซึ่งประโยชน์ทางด้านองค์กรนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้โดยตรง เช่นการที่บริษัทต่างๆ สามารถที่จะลดขนาดองค์กรของตนเองและเน้นไปที่การจัดการความเชี่ยวชาญที่มีอยู่กับธุรกิจหลักได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารการขนส่งนั้น มีเรื่องจุกจิกในการปฏิบัติการค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องบริหารบุคลากรจำนวนมาก และมีกฎระเบียบมากมาย การใช้บริการของผู้ให้บริการโลจิสติกส์สามารถให้บริษัทเข้าถึงแหล่งความรู้ที่กว้างขวางขึ้น ความรู้ที่กว้างขวางขึ้นนี้อาจจะมาจากโอกาสที่จะใช้เทคโนโลยีชั้นนำ เช่น การใช้ระบบติดตามและบริการกองพาหนะที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุงปฏิบัติการของตัวเองได้ หลายๆ บริษัทก็เลือกที่จะจัดจ้างเนื่องมาจากความต้องการที่จะบริหารความเสี่ยงอันเนื่องมาจาก อุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติการขนส่งสินค้า ในการจัดจ้างผู้ให้บริการขนส่งนั้นบริษัทสามารถที่จะแบ่งแยกความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติภัยเพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจหลักของบริษัท การเกิดอุบัติภัยขึ้นจากการขนส่งอาจจะส่งผลถึงเบี้ยประกันภัยโดยรวมของบริษัทที่อาจจะเพิ่มขึ้น หากการขนส่งนั้นอยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท แต่หากเราใช้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทำการขนส่งให้ ภาระต้นทุนของเบี้ยประกันที่จะสูงขึ้นก็จะจำกัดวงอยู่แค่การขนส่ง ถึงแม้ผู้ให้บริการอาจจะผ่านต้นทุนนั้นมายังบริษัทผู้ว่าจ้าง นอกจากนี้ การที่เราสามารถจะแบ่งแยกความเสียหายที่เกิดขึ้น บริษัทก็สามารถที่จะลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในกรณีที่เกิดอุบัติภัยจากการขนส่ง

ปัจจัยทางกายภาพอื่นๆของการขนส่งสินค้า

รสภาพทางกายภาพของรถบรรทุก
สภาพทางกายภาพของรถบรรทุก

การใช้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าควรพิจารณาแง่มุมทางกายภาพต่างๆ เหล่านี้ด้วย ซึ่งจะมีความเกี่ยวเนื่องกับทางเลือกในการจัดจ้างการปฏิบัติการขนส่งแบบที่มีผู้ใช้หลายราย หรือแบบที่ผู้ให้บริการให้บริการแบบเฉพาะบริษัท ซึ่งบริษัทสามารถที่จะก้าหนดการปฏิบัติที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจากผู้ให้บริการโลจิสติกส้ได้
คุณลักษณะของการจัดส่ง ของบางผลิตภัณฑ์อาจจะไม่เข้ากับการปฏิบัติการโดยใช้ผู้ให้บริการ   โลจิสติกส์
คุณลักษณะของพาหนะ และข้อก้าหนดต่างๆ อาจจะแตกต่างกันไปได้ตามผลิตภัณฑ์ และกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ ขนาดของพาหนะ คุณภาพของโครงสร้าง คุณสมบัติของอุปกรณ์ และหน่วยระวางสินค้า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องได้หมด
•ระบบการจัดส่งพื้นฐาน อาจจะเข้ากันไม่ได้ ตัวอย่างเช่น การขนส่งสินค้า ความจ้าเป็นที่จะต้องมีพนักงานที่ช่วยเหลือการยกสินค้าขนาดใหญ่หรือมีน้้าหนักมาลงจากรถ ซึ่งระบบการจัดส่งของผู้ให้บริการโลจิสติกส์อาจจะไม่สามารถรองรับการปฏิบัติการส่วนนี้ได้
ผลิตภัณฑ์ อาจไม่เข้ากันปัญหาหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้น คือการปนเปื้อนจากผลิตภัณฑ์หนึ่งสู่อีก ผลิตภัณฑ์หนึ่ง ปัญหานี้อาจะแก้ไขได้ด้วยการใช้บริการขนส่งแบบให้บริการเฉพาะบริษัท หรือใช้บริการจาก   ผู้ให้บริการที่ให้บริการกับสินค้าเฉพาะด้านการใช้บริการจากผู้ให้บริการขนส่งภายนอก อาจจะแบ่งได้ตามระดับของหน้าที่รับผิดชอบของผู้ให้บริการ และความสัมพันธ์กับผู้ว่าจ้าง ได้แก่ การว่าจ้างรถรับจ้างขนของเป็นครั้งๆ การว่าจ้างแบบมีสัญญาข้อผูกพัน การว่าจ้างแบบเต็มรูปแบบทั้งระบบการขนส่ง

Please follow and like us:

Write a Reply or Comment

ถ้าหากเว็บของเรามีประโยชน์? โปรดช่วยกันบอกต่อ :)