รถขนส่งสินค้าเกษตร และวิธีการการกระจายสินค้าเกษตร

การขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพด้วย รถขนส่งสินค้าเกษตร

รถขนส่งสินค้าเกษตร  สามารถช่วยในการกระจายสินค้าเกษตรอย่างเช่น ผักหรือผลิตผลผลทางการเกษตรอื่นๆได้อย่างไร และเนื่องจากสินค้าด้านการเกษตร ถือว่าเป็นสินค้าที่สำคัญของประเทศไทยทั้งในด้านการบริโภคและการส่งออก ซึ่งจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายและสัมภาษณ์จำนวนผู้ชายและผู้หญิงอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศพบว่าผู้ชายบริโภคผักและผลไม้โดยเฉลี่ย 268 กรัม/วัน และผู้หญิงบริโภคโดยเฉลี่ย 283 กรัม/วันและเมื่อสำรวจต่อไปยังพบว่ายิ่งอายุมากขึ้นกลับมีการบริโภคลดระดับการบริโภคผักและผลไม้ยิ่งลดลง ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานของการบริโภคผักและผลไม้ที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 400 กรัม/วัน แต่ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าคนไทยยังมีการบริโภคผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งผักผลไม้มีกากใย วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก จากการวิจัยยังพบว่าการบริโภคผักผลไม้อย่างเพียงพอจะทำให้โอกาสการเกิดโรคต่างๆ น้อยลงด้วย โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และหลอดเลือดสมองลดลงได้
ดังนั้นรัฐบาลจึงมีการสนับสนุนส่งเสริมให้คนไทยกินผักกันมากขึ้นโดยพยายามกระจายผักให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตามตลาดสด ห้างสรรพสินค้าต่างๆ และการที่จะกระจายผักไปตามสถานที่ต่างๆ ได้นั้นต้องมีการขนส่งสินค้าเกษตรเข้ามาด้วย ทั้งนี้เนื่องจากผักเป็นสินค้าที่บอบช้ำและเน่าเสียได้ง่าย หากการบรรจุหีบห่อไม่ดี หรือขาดความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขนส่ง ดังนั้นการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับสินค้าประเภทนี้ ลักษณะความรุนแรงทางกายภาพที่พบระหว่างการขนส่งผักและมีผลกับคุณภาพของผัก แบ่งได้เป็น 3 ประเภท
1. การกดทับ   การกดทับที่มีต่อบรรจุภัณฑ์ที่ไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้ผักบอบช้ำได้ง่าย  การกดทับเกิดจากการบรรจุผักมากจนเกินไปหรืออัดแน่นและการจัดวางที่ไม่เหมาะสม การเรียงซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นทำให้สินค้าที่อยู่ข้างล่างและด้านในได้รับความเสียหาย
2. การกระแทกในระหว่างการขนส่งกล่องสินค้าผัก เกิดจากการโยนหรือกระแทกกับกล่องอื่น หรือตกกระแทกพื้น  เป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ผักเกิดการช้ำและเน่าเสียได้
3. การสั่นสะเทือน  เกิดจากการสั่นสะเทือนของพาหนะที่ใช้ขนถ่ายระหว่างการขนส่ง รถขนส่งสินค้า  การสั่นสะเทือนจะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผักด้วยกันหรือการเสียดสีระหว่างผักกับบรรจุภัณฑ์ก่อให้เกิดรอยช้ำและเน่าเสียได้

รถขนส่งสินค้าเกษตร สามารถช่วยในการกระจายสินค้าหรือผลิตผลผลทางการเกษตร
รถขนส่งสินค้าเกษตร สามารถช่วยในการกระจายสินค้าหรือผลิตผลผลทางการเกษตร

ความต้องการในการบรรจุผลิตผลและสินค้าเกษตรชนิดต่างๆ
ลักษณะตามธรรมชาติของผักผลไม้
ลักษณะเฉพาะของผักแต่ละชนิด เช่น รูปร่าง ขนาด ที่ไม่เหมือนกัน มีผลกับการเน่าเสียของผักในระหว่างการขนส่ง เช่น ขนาดของผลิตผล ถ้าผลิตผลขนาดใหญ่จะต้องการบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงกว่าผลิตผลขนาดเล็ก นอกจากนี้ผลิตผลที่มีน้ำหนักมากควรใช้ความพิถีพิถันในการจัดวางเพื่อไม่ให้น้ำหนักของตัวผลิตผลเองทำให้ผลิตผลบอบช้ำ เพราะฉะนั้นการเลือกบรรจุภัณฑ์จึงต้องคำนึงถึง ชนิด ขนาดและรูปร่างของผลิตผล  และอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงด้วยคือการจัดวางของผลิตผลที่ช่วยประหยัดพื้นที่ในการบรรจุและง่ายต่อการขนส่ง

ความต้องการให้ความเย็น
     เนื่องจากการลดอุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญเป็นอย่างมากในการรักษาคุณภาพของผักหรือผลิตผลทางการเกษตร ในระหว่างการขนส่งสินค้า ซึ่งการทำความเย็นก็มีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำแข็ง การใช้อากาศเย็น แต่ทั้งนี้ในการทำความเย็นให้มีประสิทธิภาพดีต้องอาศัยบรรจุภัณฑ์ที่เอื้ออำนวยต่อการทำความเย็นด้วย  เช่น ในการทำความเย็นโดยผ่านตัวกลางอากาศนั้น บรรจุภัณฑ์ที่ใช้จะต้องมีลักษณะเอื้ออำนวยต่อการผ่านของอากาศอย่างทั่วถึง โดยต้องมีการเจาะรูรอบๆบรรจุภัณฑ์อย่างเพียงพอที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับอากาศเย็นอย่างทั่วถึง
ความต้องการในการปกป้องจากการสูญเสียน้ำ
ผักผลไม้ส่วนใหญ่จะมีองค์ประกอบเป็นน้ำและเกิดการสูญเสียน้ำได้ง่าย ซึ่งการสูญเสียน้ำมากอาจทำให้ผักเหี่ยวได้  ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ต้องมีส่วนช่วยรักษาน้ำให้ด้วย  ซึ่งจะเห็นว่ามีความขัดแย้งกับความต้องการการทำให้เย็นของผลิตผล  เพราะฉะนั้นในการออกแบบบรรจุภัณฑ์จะต้องคำนึงถึงปัจจัยทั้งสองควบคู่กันไปด้วย การจัดให้มีความพอดีไม่ใช่เรื่องง่ายจึงอาจใช้วิธีการอื่นๆช่วยด้วยเช่น การเคลือบผิวผลิตผล หรือการเคลือบด้วยพลาสติก ซึ่งต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม   ในส่วนของผักบางชนิด เช่น หอม กระเทียม มีการเก็บรักษาที่แตกต่างไป คือต้องการเก็บรักษาในที่ที่มีความชื้นต่ำ เพราะฉะนั้นจะต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถถ่ายเทความชื้นได้ดี

ชนิดบรรจุภัณฑ์สำหรับผักที่ใช้ในการขนส่ง

1. เข่งไม้ เข่งไม้ไผ่เป็นบรรจุภัณฑ์พื้นบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายภายในประเทศเนื่องจาก  มีราคาถูก หาซื้อได้ง่ายมีน้ำหนักเบา  เข่งสามารถบรรจุผลิตผลทางการเกษตรได้ทุกชนิด กันน้ำ และช่วยระบายอากาศได้  มีรูปทรงหลายแบบเช่น  แบบปากกว้าง หรือแบบสอบเรียวลง เข่ง มีข้อเสียคือ  มีโครงสร้างไม่แข็งแรงมากนัก  ทำให้ผลิตผลได้รับการกระแทกหรือกระทบกระเทือนง่าย  นอกจากนี้เข่งยังอาจทำลายผิวของผลิตผล โดยเฉพาะ ผัก ที่มีผิวบางการจัดเรียงเพื่อการขนส่งจึงทำได้ยาก

2. กล่องกระดาษลูกฟูก ปัจจุบันกล่องกระดาษลูกฟูกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมใช้บรรจุผลิตผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้น แบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือแบบฝากล่องสวมทับตัวกล่องและแบบธรรมดา ขนาด ความจุและความแข็งแรง แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัสดุและโครงสร้างที่ใช้  กล่องกระดาษลูกฟูกมีข้อดี คือ มีผิวเรียบไม่ทำความเสียหายกับผิวผลิตผล ช่วยป้องกันการกระแทกกับตัวผลิตผลได้ดีอีกทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยสามารถนำกลับมาเข้ากระบวนการผลิตใหม่ได้  แต่ข้อเสียของกล่องกระดาษลูกฟูกคือ ไม่ทนน้ำ ต้องใช้ความระมัดระวังเรื่องความชื้น การระบายอากาศระบายได้เฉพาะบริเวณที่มีการเจาะรูเท่านั้นการใช้กล่องกระดาษลูกฟูกอาจมีการประยุกต์ ใช้แผ่นกระดาษลูกฟูกในรูปแบบของการขัดเป็นไส้กล่อง เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงของผัก  ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับตัวกล่องลูกฟูก และช่วยป้องกันความเสียหายจากการกระแทกได้อีกด้วย

3. ภาชนะพลาสติกแบบคงรูป พลาสติกเข้ามามีบทบาทกับบรรจุภัณฑ์ผลิตผลมากขึ้นเนื่องจาก คุณสมบัติที่ดีของพลาสติกคือ ความแข็งแรง ทนทาน วางซ้อนได้ดีระหว่างการขนส่ง ทนต่อความชื้นและเปียกน้ำได้ผิวภายในเรียบไม่ทำลายผลิตผล ทำความสะอาดง่าย สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ได้หลายครั้ง แต่พลาสติกมีราคาค่อนข้างสูงจึงเหมาะสมกับการใช้เป็นบรรจุภัณฑ์หมุนเวียนวัสดุส่วนใหญ่ผลิตมาจาก polyethylene นอกจากนี้ยังมีจำพวกที่มีลักษณะเป็นโฟม ทำจาก polystyrene ซึ่งมีลักษณะเป็นรูพรุนเหมาะสำหรับใช้เป็นวัสดุกันกระแทก

4. ภาชนะไม้ ไม้ที่นำมาใช้ผลิตเป็นภาชนะควรเป็นไม้ที่มีราคาไม่สูงมากนัก วัสดุหาง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ตัวอย่างของไม้ที่มีการใช้ได้แก่ไม้ยางไม้เนื้ออ่อน ไม้อัด ข้อดีของภาชนะไม้คือ มีความแข็งแรง ทนทานต่อการวางซ้อนกันระหว่างการขนส่ง สามารถออกแบบให้อากาศถ่ายเทได้ตามต้องการ ทนต่อความชื้นและเปียกน้ำได้แต่ต้องระวังการเกิดเชื้อราสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่วนข้อเสียของภาชนะไม้คือ ผิวภายในแข็งและหยาบอาจทำความเสียหายต่อผลิตผลได้

5. โฟม เป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทหนึ่ง ที่ผ่านปฏิกิริยาทางเคมีต่างๆโดยพลาสติกที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตโฟมมีหลายชนิดที่นิยมที่สุด คือ PS ซึ่งจะเรียกว่า Polystyrene ที่ขยายตัวแล้ว expanded polystyrene หรือ เรียกย่อๆ ว่า EPS    เนื่องจากโฟมมีคุณสมบัติเด่นเหนือวัสดุอื่นตรงที่มีความหนาแน่นต่ำ มีความยืดหยุ่นได้ดีป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำได้ดี อีกทั้งขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้หลายรูปแบบ ได้ตามต้องการ ซึ่งใช้เงินทุนไม่สูงมากนัก ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ชนิดโฟมจึงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน สำหรับโฟมที่นิยมใช้กันมากกับผลิตผล คือโฟมชนิดถาดแบนซึ่งเวลาใช้จะมีการห่อรัดด้วยฟิล์มยืดใสที่ทำมาจาก Polyvinylchloride หรือเรียกย่อ ๆ ว่า PVC เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และช่วยเก็บรักษาความสดไว้ในระยะเวลาสั้นๆ  โฟมถือเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกในการขายปลีกมากกว่าประโยชน์ด้านการขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งหรือการป้องกันการกระทบกระเทือน

6. ผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษขึ้นรูป (Moulded Pulp Containers) เยื่อกระดาษขึ้นรูป  หมายถึงวัสดุหรือภาชนะบรรจุสามมิติที่ทำจากการขึ้นรูปของเยื่อกระดาษให้เป็นรูปร่างต่างๆ ตามต้องการ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเศษกระดาษเหลือใช้ที่มีเยื่อบริสุทธิ์ผสมอยู่บ้าง สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่จะใช้กระดาษที่มีคุณภาพสูง และไม่เปื้อนหมึกพิมพ์ เช่น กระดาษที่ได้จากการตัดขอบกระดาษของโรงงานผลิตกระดาษ เป็นต้นเยื่อกระดาษขึ้นรูป มักจะนำมาใช้เป็นวัสดุกันกระแทก  วัสดุช่วยบรรจุหรือภาชนะบรรจุสินค้าที่บอบบาง แตกหักง่าย เพื่อช่วยในการขนส่งสินค้าทางการเกษตรซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นผลิตผลที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขนส่งสินค้ามากกว่า สินค้าอื่นๆ
บรรจุภัณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการบรรจุสำหรับผลิตผลทางการเกษตรหรือผัก เท่านั้น แต่ยังมีบรรจุภัณฑ์อีกมากมายที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ โดยการเลือกใช้ต้องพิจารณาถึงลักษณะของผักแต่ละชนิด ลักษณะการขนส่งสินค้า และกฎระเบียบของแต่ละประเทศในกรณีที่ต้องมีการส่งออก ทั้งนี้บรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทผักถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลกระทบโดยตรงกับอายุของผลิตภัณฑ์ จึงต้องมีการพิถีพิถันเลือกใช้มากกว่าผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ เพื่อให้ผักมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานและมีคุณภาพก่อนจะมีการขนส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค

ถ้าหากเว็บของเรามีประโยชน์? โปรดช่วยกันบอกต่อ :)